
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) ซึ่งถือเป็นอีกรุ่นไฮไลต์ของ OR BRIC Superbike ฤดูกาลนี้ ความได้เปรียบอยู่กับ “คณาทัต ใจมั่น” นักบิดหนุ่มจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ที่คว้าชัยชนะ 2 สนามแรก รั้งจ่าฝูงโดยมี 50 แต้มเต็ม เหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง
“สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง” จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ อยู่ 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “นิติพงศ์ แสงสว่าง” ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 18 คะแนน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามนี้ ขับเคี่ยวกันดุเดือดแน่นอน เพราะมีนักแข่งยอดฝีมือ ดาวดังระดับเอเชีย
ตบเท้าเข้าร่วมมากมาย เริ่มจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทีมแข่งชั้นนำของไทย ประกาศส่ง 2 นักบิดฝีมือดี “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช
และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์ทวีปเอเชียอย่าง เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2020 ถูกยกเลิกการแข่งขันจากพิษโควิด-19
ส่วน ยามาฮ่า เรซซิ่งทีม ไทยแลนด์ ประกาศส่ง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์เอเชียถูกยกเลิกเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด หนึ่งในยอดทีมแข่งของไทยจะดัน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล อดีตแชมป์ในคลาส
ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามที่ 3 ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
“เห็นได้ชัดว่าในปีนี้ OR BRIC Superbike ได้รับความนิยมขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์
เอสบี1 มีนักบิดชั้นนำจากเวทีเอเชียมาแข่งขันด้วย และการแข่งขันใน 2 สนามแรกก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
ซีรีส์ชิงแชมป์ประเทศไทยมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การชมเกมระดับโลกเลย ผมเชื่อว่าสนามที่ 3 ซึ่งมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้
จะมีความเข้มข้นกว่าทุกๆ สนามที่ผ่านมา เพราะจะเป็นสนามที่ชี้ว่าสถานการณ์ลุ้นแชมป์จะเป็นเช่นไรก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์กันอีกครั้ง” นายตนัยศิริ เผย